เปิดประวัติ Kevin De Bruyne จอมแอสซิสต์แห่งโลกฟุตบอล

การแข่งขันกีฬาฟุตบอล มันเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าพวกเขานั้นวัดกันที่ผลของการแข่งขันและทุกคนมักจะจดจำ คนที่ทำประตูได้เสียมากกว่า ซึ่งสตาร์ดังๆที่หลายคนรู้จักกันนั้นก็มาจากตำแหน่งกองหน้าทั้งนั้น พวกเขามีการจบสกอร์ที่เฉียบคมหรือการเล่นที่แพรวพราวในสนาม มีลูกเล่นหรือท่าทางต่างๆรวมถึงอริยบทที่ทุกคนต่างจดจำได้เป็นอย่างดี แต่น้อยคนนักที่จะนึกถึงคนที่แอสซิสต์หรือจ่ายบอลสวยๆให้กับพวกเขา ซึ่งก็อีกนั้นแหละมีน้อยคนนักที่จะถูกจดจำในตำแหน่งนี้ และถ้าพูดถึงจอมแอสซิสต์แล้วล่ะก็ จะขาดเขาคนนี้ไม่ได้เลย สำหรับ Kevin De Bruyne ชายผู้ที่อาจจะเรียกได้ว่าเขาคือกองกลางที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอลยุคนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับชายคนนี้ให้มากขึ้นกันว่าเส้นทางลูกหนังของเขานั้นเป็นเช่นไร

Kevin De Bruyne กับเส้นทางบนผืนหญ้า

Kevin De Bruyne

เดอ บรอยน์ เกิดเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ในประเทศเบลเยียม เขานั้นได้เริ่มต้นเส้นทางอายุของเขาเมื่ออายุได้ 18 ปี เป็นผู้เล่นของสโมสรเก็งค์ในประเทศเบลเยี่ยม และเป็นตัวจริง มีส่วนช่วยให้ทีมสามารถ คว้าแชมป์เบลเจียนโปรลีก ฤดูกาล 2010–11 ได้สำเร็จ ในปี ค.ศ. 2012 ซึ่งต่อมาเขาก็เป็นที่เข้าตาของทัพ สิงห์บลู เชลซี และได้เซ็นสัญญาเข้ามาเป็นนักเตะ แต่ก็ยังไม่ได้ทันลงเล่นกับทีม ตัวเขาเองนั้นก็ถูก แวร์เดอร์ เบรเมน ทีมจากบุนเดสลีก้า เยอรมันยืมตัวไปใช้งาน ซึ่งเจ้าตัวก็ทำผลงานได้เป็นอย่างดีกับการลงเล่นให้กับ เบรเมน ทั้งหมดจำนวน 34 นัดและถูก เชลซี เรียกตัวกลับมาใช้งานในปี 2014 แต่ก็นั่นแหละกับเชลซีเขาได้ลงสนามเพียงแค่ 9 นัดเท่านั้น ซึ่งสิงห์บลูในยุคนั้นถือว่าแข็งแกร่งอย่างมากและไม่มีพื้นที่ๆจะเบียดลงสนามไปได้ จนในช่วงมกราคมปี 2014 เจ้าตัวก็ถูกขายออกให้กับทีมอย่างโวล์ฟบวร์กจากลีกบุนเดสลีก้าอีกเช่นเคย แต่คราวนี้ เดอ บรอยน์ กับทำผลงานได้เป็นอย่างมาก จากการลงสนาม 51 นัด ยิงไป 16 ประตูและทำไป 21 แอสซิสต์ ซึ่งในจังหวะนี้ผลงานของเขามันก็ดันเข้าตาทีมอย่างแมนเขสเตอร์ ซิตี้ ที่ขณะนั้นพวกเขากำลังจะสร้างทีมขึ้นมาใหม่ โดยเดอ บรอยน์ถูกซื้อไปด้วยค่าตัวกว่า 55 ล้านปอนด์ ซึ่งสูงมากในตอนนั้น

Kevin De Bruyne

แน่นอนหลังที่เขาย้ายยัง แมนฯซิตี้ เรือใบสีฟ้าก็กลายเป็นทีมที่มีอำนาจอย่างมากในพรีเมียร์ลีกและนยุโรป พวกเกวาดถ้วยรางวัลต่างๆมากายมาครองได้สำเร็จ ซึ่งไม่เพียงแต่กับสโมสรเท่านั้น เดอ บรอยน์ ยังเป็นแกนหลักของทีมชาติเบลเยี่ยมและพาทีมขึ้นมาเป็นอับดับ 1 ของโลกใน FIFA RANKING ได้อีกด้วย

Kevin De Bruyne

ส่วนความสามารถเฉพาะของเขานั้นไม่ต้องพูดถึง แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้มีจังหวะหวือหวาอะไรมากมาย แต่เขาใช้มันสมองของตัวเองล้วนๆในการเล่น วิสัยทัศน์ในการออกบอล ความเข้าใจเกม รวมถึงลูกยิงไกลที่เฉียบคม มันเป็นที่ต้องมีทักษะและความคิดที่เป็นเลิศอย่างมาก เขาเหมือนกับมองเห็นทุกอย่างในสนามได้ทะลุปรุโปรงเลยทีเดียว

ซึ่งแน่นอนในฤดูกาล 2022/23 นี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขามีลุ้นแชมป์ถึง 3 รายการด้วยกันและก็ถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์ทั้งหมด และกุนแจสำคัญก็จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่เขาคนนี้

– เควิน เดอ บรอยน์ –