เป็นที่ทราบผลกันแล้ว ในศึก คาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะ นิวคาสเซิ่ล ณ สนาม เว็มบลีย์ [wembley] กับแฟนบอลทั้ง 2 ทีม ทั้งในและนอกสนามที่มากันอย่างล้นหลาม ซึ่งผลปรากฎว่า “ทัพปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถเอาชนะสาลิกาดง ไปได้ 2-0 จากการโหม่งทำประตูของกองกลางจอมดุดันอย่าง คาเซมิโร่ ในนาทีที่ 33 ก่อนที่ มาร์คัส แรซฟอร์ด จะยิงไปแฉลบ sven botman เข้าประตูตัวเองไปในนาทีที่ 39 ซึ่งนอกจากนั้นพวกเขาทั้งคู่ทำอะไรกันไม่ได้ ส่งผลให้ ‘ปีศาจแดง’ คว้าแชมป์ถ้วยมิกี้เม้าส์เป็นสมัยที่ 6 ของสโมสร รั้งอันดับ 3 ของการคว้าถ้วยใบนี้รองจาก ลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ถึง 9 และ 8 สมัย ตามลำดับ
ทั้งนี้ ‘ปีศาจแดง’ กำลังฟอร์มเข้าฝักแบบสุดๆ พวกเขามีลุ้นแชมป์ถึง 4 รายการ ในเวลานี้ และได้มาแล้ว 1 ซึ่งเส้นทางของพวกเขากำลังไปได้ด้วยดี โดยในสัปดาห์ก่อน พวกเขาพึ่งเขี่ยบาร์เซโลน่าตกรอบ ยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายไปได้ และเข้าไปเจอกับ เรอัล เบติส ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งคาดว่าพวกเขาน่าจะผ่านเข้ารอบไปได้ ส่วนในถ้วย เอฟ เอ คัพ รอบ 5 พวกเขาจะไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในวันที่ 2 มีนาคมนี้ และเช่นเดียวกับเส้นทางในพรีเมียร์ลีก ‘ปีศาจแดง’ กำลังไล่บี้จ่าฝูงอาร์เซน่อลและรองจ่าฝูงแมนฯซิตี้เหลือเพียง 8 และ 6 คะแนน ตามลำดับ ซึ่งยังเหลือการแข่งขันอีกถึง 14 นัดด้วยกัน
สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้น พวกเขาห่างหายจากถ้วยแชมป์มาเป็นเวลานาน และทีมที่ไม่สมบูรณ์ซักเท่าไหร่ จนมาได้ เอริค เทน ฮาก เข้ามาคุมทีม แม้ว่าช่วงแรกจะฟอร์มออกทะเลไปบ้าง แต่พอนักเตะเริ่มเล่นเข้าขากันแล้ว และได้ คาเซมิโร่ รวมถึง เอริคเซ่น เข้ามาช่วยในแดนกลาง พร้อมกับฟอร์มอันร้อนแรงหลังจบฟุตบอลโลก 2022 ของ มาร์คัส แรซฟอร์ด ทำให้ตอนนี้ พวกเขาไม่แพ้ใครมาแล้ว 18 นัด ติดต่อกัน ซึ่งนี่ถือเป็นสถิติที่ดีที่สุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับตั่งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์ กู สัน อำลาทีมไป ‘ปีศาจแดง’ ภายใต้การคุมทีมของ เอริก เทน ฮาก นั้นได้มีการเปลี่ยนระบบและวิธีการเล่นไปจากยุคของ โอเล่กู น่า โซชา และ ราล์ฟ รังนิก อยู่มาก พวกเขามีการเคลื่อนที่และการตอบสนองที่ไวขึ้น การเพรสเกมที่รวดเร็วและสูง บีบคู่ต่อสู้ในแดนของตัวเอง มีสปีดบอลที่จัดจ้านมากยิ่งขึ้น และในแดนกลางพวกเขายังมีอิสระในการเล่นหลากหลายรูปแบบ ทั้งนี้เราต้องยอมรับเลยว่า เอริค เทน ฮาก สามารถนำศักยภาพของนักเตะออกมาได้แบบเต็มที่ ทั้งการเล่นของบรูโน่ เฟอร์นานเดช ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สปีดบอลจากกลางสู่แดนหน้าที่พวกเขาใช้ความเร็วของแนวรุกได้อย่างเต็มที่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่ากลัวกว่าเก่าอย่างมาก
เราคงต้องมาดูกันว่าในปีนี้ พวกเขาจะสามารคว้าแชมป์ได้อีกกี่รายการ และที่น่าสนใจเลยคือการเสริมทีมในช่วงซัมเมอร์ที่บอกได้เลยว่า จะเป็น ยูไนเต็ดที่น่ากลัวกว่าตอนนี้อีกหลายเท่า ทั้งนี้แฟนปีศาจแดงทั่วโลกคงจะยิ้มได้เต็มปากแล้วว่าพวกเขาคือสุดยอดทีมๆ หนึ่งในยุโรปหรือของโลก ณ เวลานี้แล้ว
“ความผิดหวังในหลายครั้ง หลายโอกาส และ หลายสถานการณ์ มันทำให้เรารู้ว่า เรายังไม่ดีพอ แต่ไม่ใชว่าเราจะต้องเป็นแบบนั้นเสมอไป ที่นี่ ที่แห่งนี้ มัน
มีอะไรที่พิเศษ และผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านั้นมันจะเกิดขึ้นอีกครั้ง” – เอริค เทน ฮาก
