เป็นที่ทราบกันแล้วว่าในรอบชิงชนะเลิศ ศึก เอฟเอ คัพ อังกฤษ 2022/23 นั้นจะเป็นการเจอกันระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สองทีมยักษ์ใหญ่จากเมืองแมนเชสเตอร์ ในคืนวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2023 นี้ ซึ่งนี่คือการโคจรมาพบกันครั้งแรกในรอบชิงชนะเลิศถ้วยรางวัลนี้ของทั้งสองทีมและในฤดูกาล 2022/23 พวกเขาทั้งคู่ต่างทำผลงานกันได้อย่างดีเลยทีเดียว โดยแมนเชสเตอร์ ซิตี้นั้นพึ่งคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไป และยังเข้าชิงถ้วย ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกอีกด้วย ส่วนทาง Manchester United เองก็คว้าแชมป์ คาราบาว คัพ ไปได้และจบอันดับ 3 ของตารางคะแนนอีกด้วย โดยวันนี้เราจะพาไปเช็คความพร้อมของทั้ง 2 ทีมกันว่าจะเป็นอย่างไร
ปีศาจแดงในฤดูกาลนี้หลังจากที่ได เอริก เทน ฮาค เข้ามาคุมทีมพวกเขาโชว์ฟอร์มได้ดีอย่างต่อเนื่อง เกมรุกที่ดุดันยิ่งขึ้นแผนการเล่นของพวกเขาเปลี่ยนไป นักเตะมีการเล่นเพรชซิ่งที่ดีข้นท้งนี้ยงรวมมาถึงการได้ทั้ง คาเซมิโร่และคริสเตียน เอริคเซ่นอีกด้วยมันเลยช่วยทำให้กองกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดนี้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นอย่างมาก อีกทั้งฟอรมอร้อนแรงของมาคัส แรซฟอร์ดที่ยิงอย่างต่อเนื่องช่วยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นถล่มคู่แข่งกระจุยกระจายถึงแม้ว่าพวกเขาจะพลาดท่าตกรอบ ยูโรปา ลีก ให้กับเซบีย่าไปก็ตาม แต่ฟอร์มการเล่นก็ไม่ได้ดรอปลงเลย และนัดชิงที่จะถึงนี้นักเตะก็พร้อมลงสนามทุกตำแหน่ง
ทีมของสุดอดกุนซืออย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ในฤดูกาลนี้ฟอร์มการเล่นไม่ต้องพูดถึง พวกเขามีมาตราฐานที่ดีอย่างมากและบวกกับกรได้ดาวยิงคนใหม่เข้ามาร่วมทีมแล้วด้วยอย่าง เออลิ่ง เบร้าน์ ฮาลันด์ ที่เจ้าตัวนั้นกดและทำลายทุกสถิตที่มีในพรีเมียร์ลีกเสียหมดสิ้น ทั้งนี้การประสานงานคู่กับเควิน เดอ บรอยน์ แจ็ค กรีลิสและฟิล โฟเด้น มันเลยทำให้เกมรุกของทัพ เรือใบสีฟ้า ดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก และในส่วนของแผงมิดฟิลด์พวกเขาก็ยังมีทั้ง โรดี้ ที่ในฤดูกาลนี้ถือได้ว่าเป็นกองกลางตัวรับที่เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง ส่วนเกมรับก็ยังคงได้จอห์น สโตน มาช่วยในฤดูกาลนี้ ปีนี้พวกเขามีลุ้นทำ ทริปเปิ้ลแชมป์และทีมของเป๊ปเองก็เป็นทีมวางอันดับ 1 ของทุกรายการอีกด้วย
แม้ว่าในฤดูกาลนี้ฟอร์มจะร้อนแรงทั้งคู่ แต่มันก็อาจจะเอนเอียงไปทางเรือใบสีฟ้าอยู่บ้างที่พวกเขาเคยถล่มยูไนเต็ดมาแล้วถึง 6-3 แต่ก็ใช่ว่าจะชนะอยู่ฝ่ายเดียวเพราะพวกเขาก็ไปพ่ายให้กับ ยูไนเต็ด ในบ้านมา 2-1 เหมือนกัน เกมนี้น่าจะเป็นเกมที่สนุก ทั้งคู่คงเปิดเกมบุกกันตั้งแต่นาทีแรกและแน่นอนว่านี่คือ เกมแห่งศักดิ์ศรี ย่อมไม่มีใครยอมใครอย่างแน่นอน
