เชื่อว่าบรรดาเหล่าแฟนบอลของทีมลิเวอร์พูลทั้งหลาย คงจะมีความคุ้นเคยกับเพลง You’ll Never Walk Alone กันเป็นอย่างดี เนื่องจากในช่วงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีการฟังกันอยู่บ่อยๆ ยิ่งท่านไหนเป็นแฟนบอลของทีมดังกล่าวด้วยแล้ว คงจะมีความอินกับเนื้อหาเพลงมากยิ่งขึ้นไปอีกระดับ ทางเราจึงอยากพามาทำความรู้จักกับเพลง You’ll Never Walk Alone ให้ละเอียดยิ่งขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นเอาเป็นว่าอย่ามัวรอช้าอยู่เลยจะดีกว่า รีบตามมาศึกษาถึงความเป็นมาของเพลง You’ll Never Walk Alone ไปด้วยกันเลย
เพลง You’ll Never Walk Alone ถูกแต่งขึ้นมาเป็นระยะเวลานานมากแล้ว โดยถือกำเนิดขึ้นมาอย่างเป็นทางการ จากละครเพลง CAROUSEL ซึ่งมีผู้แต่งเพลงทั้งหมด 2 คนด้วยกัน คือ “ออสการ์ แฮมเมอร์สไตน์” และ “ชาร์จ ร้อดเจอร์ส” ต่อมาเพลงเริ่มกลายมาเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงของยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ประชาชนในยุคนั้นหันมาฟังเพลงนี้ คงเป็นเพราะตัวเพลงมีเนื้อหาดี และช่วยในการให้กำลังใจ จนสภาพจิตใจกลับมาฟื้นฟูอีกครั้ง หลังจากต้องเผชิญหน้ากับมหาสงครามที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด จึงส่งผลให้เพลง You’ll Never Walk Alone เริ่มฮอตฮิตติดกระแสมาตามลำดับ
ทราบมาว่าเพลง You’ll Never Walk Alone กลายมาเป็นกระแสโด่งดังอย่างเป็นวงกว้าง เมื่อทางด้าน “Gerry and the Pacemakers” ซึ่งเป็นศิลปินท้องถิ่นของเมืองลิเวอร์พูล ได้ทำการหยิบยกเพลงนี้มาขับร้องด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกันในช่วงเวลาอันไล่เลี่ย ก็พบว่าเพลง You’ll Never Walk Alone ถูกแต่งตั้งให้เป็นเพลงประจำทีมลิเวอร์พูลในที่สุด ซึ่งเริ่มมีการนำเพลงมาใช้เป็นครั้งแรกในระหว่างปี 1963 มาจนถึงกระทั่งปัจจุบัน จนแฟนบอลแทบทั้งหมดของทีมลิเวอร์พูล ต่างเกิดความผูกพันกับเพลงที่กล่าวมาไปตามกัน ดังนั้นเราจึงมักจะเห็นแฟนบอลหลายๆ ท่าน เกิดอาการอินจัดจนน้ำตารินเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงเพลงนี้
หากใครเป็นหนึ่งใน “แฟนหงส์” ระดับตัวยง เชื่อเหลือเกินว่าทุกท่านต้องเคยได้ยินเพลง You’ll Never Walk Alone กันมาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย เพราะเพลงนี้จะถูกเปิดทุกครั้งก่อนทีมลิเวอร์พูลจะลงสนามแอนฟิลล์ โดยบรรดาเหล่าเดอะค็อปกว่า 5 หมื่นคน จะช่วยกันร้องเพลงสอดประสานเสียงด้วยความลงตัว จนสร้างความฮึกเหิมแก่นักเตะทั้งหลาย เป็นเหตุให้สามารถคว้าชัยชนะมาครอบครองได้อย่างสม่ำเสมอ เอาเป็นว่าท่านไหนอยากสัมผัสบรรยากาศในแบบที่เอ่ยมาข้างต้น อย่าลืมลองไปย้อนดูคลิปการแข่งขันเก่าๆ ที่สนามแอนฟิลล์กันสักหน่อย รับรองสายเลือดความเป็น “เด็กหงส์” จะต้องเข้มข้นกว่าเดิมแน่นอน
